หัวข้อ
- #อีแซล
- #ฮงอีซัก
- #ซิงเกอร์เกน3
- #รายการวาไรตี้ JTBC
- #โซซูบิน
สร้าง: 2024-02-06
สร้าง: 2024-02-06 11:21
ที่มา: JTBC
สวัสดีครับ! วันนี้ผมจะมาแนะนำรายการ 싱어게인3 (Singer Gain 3) ที่เพิ่งจบไปเมื่อไม่นานมานี้ครับ 싱어게인 (Singer Gain) คือ ‘รายการออดิชั่นรีบูตที่ช่วยให้ศิลปินที่ต้องการโอกาสอีกครั้งได้กลับมายืนบนเวทีต่อหน้าผู้ชมอีกครั้ง’ ครับ ผ่านรายการนี้ ทำให้ผู้เข้าแข่งขันที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงได้มีโอกาสขึ้นเวทีร้องเพลงและได้รับกำลังใจจากผู้คนมากมายเลยทีเดียว งั้นเรามาทำความรู้จักกับรายการ 싱어게인3 (Singer Gain 3) กันดีกว่าว่าดำเนินการอย่างไรบ้าง และผลลัพธ์สุดท้ายเป็นเช่นไร!
*บทความนี้อาจมีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของรายการ*
싱어게인3 (Singer Gain 3) แบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 รอบ รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ โดยมีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 77 คนครับ ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะใช้หมายเลขและคำคีย์เวิร์ดแทนชื่อ โดยเริ่มจากหมายเลข 1 ถึง 77 โดย ฮงอีซัก (Hong Isak) ผู้ชนะเลิศคือผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 58 ที่มีคำคีย์เวิร์ดว่า ‘อยากรู้วันหมดอายุ’ ส่วน โซซูบิน (So Soobin) ผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 49 ที่มีคำคีย์เวิร์ดว่า ‘ง่ายๆ’ ได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 การใช้คำคีย์เวิร์ดแบบนี้ทำให้เราทราบถึงความรู้สึกและที่มาที่ไปของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนว่าทำไมถึงมาร่วมรายการ ผมคิดว่าเป็นคอนเซ็ปต์ที่ดีทีเดียว งั้นมาดูกันดีกว่าว่าแต่ละรอบดำเนินการอย่างไรบ้าง!
ที่มา: ช่องยูทูบ JTBC
รอบที่ 1: รอบการแข่งขันเพื่อความอยู่รอดแบบแบ่งกลุ่ม ผู้เข้าแข่งขันจะถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มต่างๆ ได้แก่ กลุ่มสุดยอดฝีมือ กลุ่มซูการ์แมน กลุ่มที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง กลุ่มเดี่ยว กลุ่ม OST และกลุ่มผู้ชนะจากรายการออดิชั่นต่างๆ จากนั้นกรรมการจะกดปุ่ม ‘어게인 (Again)’ ให้กับผู้เข้าแข่งขันที่อยากฟังเพลงอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินว่าใครผ่านเข้ารอบต่อไปหรือตกรอบ ในรอบแรกนี้ถือเป็นการแนะนำตัวตนและเสียงร้องให้ผู้ชมได้รู้จัก ผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่จึงเลือกเพลงที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ของตัวเอง มีทั้งเพลงที่คุ้นหู และผู้เข้าแข่งขันที่แม้จะไม่ค่อยมีชื่อเสียงแต่ก็มีความสามารถสูงมากมายเลยทีเดียว
ที่มา: ช่องยูทูบ JTBC
รอบที่ 2: รอบการแข่งขันแบบทีม ผู้เข้าแข่งขันจะต้องจัดทีมและแข่งขันกัน การร้องเพลงเป็นทีมทำให้ได้ยินเสียงเพลงที่ไพเราะและเต็มอิ่มมากขึ้น และมีเวทีที่ดีๆ เกิดขึ้นมากมาย
รอบที่ 3: รอบการแข่งขันแบบคู่แข่ง ผู้เข้าแข่งขันจะต้องเลือกคู่แข่งมาแข่งขันกัน ซึ่งบางคู่เป็นทีมที่เคยแสดงเคมีที่ดีต่อกันมาก่อน ทำให้เกิดทั้งความตื่นเต้นและความรู้สึกเสียดาย แต่ก็ยังคงมีเวทีที่ดีๆ ให้ชมอยู่ดี
ที่มา: ช่องยูทูบ JTBC
รอบที่ 4: รอบตัดสิน 10 อันดับแรก ผู้เข้าแข่งขัน 4 คนจะรวมทีมกัน และ 2 คนที่ได้คะแนนสูงสุดในแต่ละทีมจะผ่านเข้ารอบ 10 อันดับแรกโดยอัตโนมัติ หลังจากนั้น 8 คนที่ได้คะแนนสูงสุดและผู้ชนะจากรอบคัดเลือกจะมาเป็น 10 อันดับสุดท้าย และผู้ที่ผ่านเข้ารอบ 10 อันดับสุดท้ายจะต้องเข้าร่วมพิธีประกาศชื่อ ซึ่งเป็นการเปิดเผยตัวตนและร้องเพลงของตัวเอง ทำให้มีความหมายมากขึ้น
ที่มา: ช่องยูทูบ JTBC
รอบรองชนะเลิศ: รอบตัดสิน 6 อันดับแรก เป็นรอบที่มีการแข่งขันที่ดุเดือดมาก โดยปกติแล้วจะมีผู้เข้าแข่งขันเพียง 6 คนเท่านั้นที่ผ่านเข้ารอบ แต่เนื่องจากการแข่งขันในรอบนี้ดุเดือดมาก กรรมการจึงได้เสนอให้ทีมงานเพิ่มผู้เข้าแข่งขันเป็น 7 คน และในที่สุดก็ได้ผู้เข้าแข่งขัน 7 คนผ่านเข้ารอบ
ที่มา: ช่องยูทูบ JTBC
รอบชิงชนะเลิศ: แบ่งออกเป็น 2 รอบ รอบแรกคือภารกิจร้องเพลงใหม่ที่แต่งโดยนักแต่งเพลง โดยจะนำคะแนนจากกรรมการ คะแนนจากยอดสตรีมมิ่งในชาร์ตเพลง และยอดวิว/ยอดไลค์ในยูทูป มารวมกันเป็นคะแนน ส่วนรอบที่สองคือภารกิจร้องเพลงคัฟเวอร์ โดยจะนำคะแนนจากการโหวตทาง SMS แบบเรียลไทม์ การโหวตออนไลน์ล่วงหน้า และคะแนนจากกรรมการ มารวมกันเป็นคะแนน ผลลัพธ์สุดท้ายจะคำนวณจากคะแนนรอบที่ 1 30% + คะแนนรอบที่ 2 60% + คะแนนจากการโหวตออนไลน์ล่วงหน้า 10% วิธีการคำนวณคะแนนค่อนข้างซับซ้อน และเนื่องจากผลลัพธ์ไม่ได้เปิดเผยแบบเรียลไทม์ ทำให้คาดเดาผู้ชนะได้ยาก
ที่มา: ช่องยูทูบ JTBC
ที่มา: เว็บไซต์ JTBC
ผลลัพธ์สุดท้ายคือ ฮงอีซัก (Hong Isak) ได้รับรางวัลชนะเลิศ รองลงมาคือ โซซูบิน (So Soobin) อันดับ 3 คือ อีเจล (Ijel) อันดับ 4 คือ ชินแฮซอล (Shin Haesol) อันดับ 5 คือ รีจิน (Lee Jin) อันดับ 6 คือ คังซองฮี (Kang Seonghee) และอันดับ 7 คือ ชูซึงยอพ (Chu Seungyeop) งั้นมาดูกันดีกว่าว่าผู้ที่เข้ารอบจะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง ก่อนอื่นเลย ผู้ที่เข้ารอบ 10 อันดับแรกจะได้รับโอกาสเข้าร่วมคอนเสิร์ตทัวร์ทั่วประเทศ ส่วน 3 อันดับแรกจะได้รับการดูแลจัดการจากบริษัท 1 ปี โซฟา และเงินรางวัล 30 ล้านวอน ส่วนผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 300 ล้านวอน นอกจากนี้ ผู้ที่เข้ารอบ 10 อันดับแรกยังมีโอกาสได้ร่วมแสดงคอนเสิร์ตด้วยกัน ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีมากเลยทีเดียว
การแข่งขัน 싱어게ิน (Singer Gain) ที่ดำเนินการมาอย่างยาวนานถึง 3 เดือนก็ได้จบลงแล้ว ผมอยากจะปรบมือให้กับผู้เข้าแข่งขันและทีมงานทุกคนที่ทุ่มเทตั้งแต่รอบคัดเลือกจนถึงการถ่ายทำรายการ! ผมรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้ฟังเรื่องราวและเพลงของผู้เข้าแข่งขัน รู้สึกดีใจที่ได้รู้จักศิลปินที่มีความสามารถมากมายที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน และหวังว่าจะมีรายการแบบนี้ออกมาอีกเรื่อยๆ เพื่อช่วยเหลือศิลปินที่ไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือ!
ที่มา: ช่องยูทูบ JTBC
ที่มา: ช่องยูทูบ JTBC
สุดท้ายนี้ ในฐานะผู้ชมที่ติดตาม 싱어게ิน3 (Singer Gain 3) มาตลอด ผมอยากจะมาเล่าเสน่ห์ของรายการ 싱어게ิน (Singer Gain) ให้ฟังครับ ข้อแรกคือ รายการไม่ได้เน้นการแข่งขันที่รุนแรงมากเกินไป รายการออดิชั่นส่วนใหญ่เพื่อให้ได้เรตติ้งและความสนใจสูงมักจะสร้างสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงหรือตัดต่อภาพให้ดูร้ายแรง แม้ว่าการแข่งขันจะเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่รายการนี้พยายามที่จะลดทอนความรุนแรงให้น้อยที่สุด ทำให้ผู้ชมรู้สึกสบายใจมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้เห็นมุมมองที่เป็นมนุษย์ของกรรมการด้วย ㅎㅎ
ข้อที่สองคือ ไม่ได้นำเสนอแต่เพียงเสียงร้องเท่านั้น แต่ยังเล่าเรื่องราวของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนอย่างจริงใจด้วย การได้รู้เรื่องราวของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนก่อนที่จะมาร่วมรายการ ทำให้รู้สึกว่าเพลงที่พวกเขาร้องมีความจริงใจมากขึ้น
และข้อสุดท้ายที่ผมรู้สึกประหลาดใจคือ รายการไม่ได้มอบเงินรางวัลให้กับผู้ชนะเลิศเพียงคนเดียว โดยทั่วไป รายการออดิชั่นมักจะมอบเงินรางวัลให้กับผู้ชนะเลิศเท่านั้น แต่ 싱어게ิน (Singer Gain) มอบเงินรางวัลและของรางวัลให้กับผู้ที่ได้อันดับ 2 และ 3 ด้วย ทำให้รู้สึกว่ารายการนี้แตกต่างออกไป
ผมขอจบการแนะนำรายการ 싱어게인 (Singer Gain) ไว้เพียงเท่านี้ หากใครเบื่อรายการแข่งขันที่เน้นความตื่นเต้นเร้าใจ ผมขอแนะนำรายการ 싱어게인3 (Singer Gain 3) รายการที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและเต็มไปด้วยความจริงใจครับ แล้วพบกันใหม่กับการแนะนำรายการบันเทิงที่น่าสนใจอื่นๆ ครับ ขอบคุณที่อ่านครับ:)
ความคิดเห็น0